Home
Archives for มกราคม 2016
แทบซ็อก ฝึกสมาธิเอาอุจจาระราดตัว เกิดอะไรขึ้นในสังคมไทย
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล หลังจากสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า เตชินท์ จอมคำ ได้แชร์ภาพจากแฟนเพจเฟซบุ๊กของ หลวงปู่พุทธะอิสระ เป็นภาพการฝึกวิชาขันธารของพระเณร ตอนบวชรุ่น 80 พรรษา ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โดยการเอาอุจจาระมาราดตัวพระเณรเพื่อฝึกสมาธิ ซึ่งหลังจากที่ภาพได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม
ขณะที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แห่งวัดสร้อยทอง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ไพรวัลย์ วรรณบุตร ถึงเรื่องดังกล่าวชี้แจงว่า ในพุทธศาสนาไม่มีเรื่องการฝึกสมาธิด้วยการเอาอุจจาระมาราดตัว เพราะการทำเช่นนี้ มันออกนอกทางสายกลาง เป็นความสุดโต่ง เป็นการทรมานตนให้ลำบากโดยเปล่าประโยชน์ ภาษาพระท่านเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค
หมดแผงแล้ว เลขเด็ด ‘ปอ ทฤษฎี’
ด้านแม่ค้าลอตเตอรี่รายหนึ่งที่ขายอยู่ ในห้างบิ๊กซีบุรีรัมย์ บอกว่า ตั้งแต่เมื่อวานมีผู้สนใจหาซื้อเลข 23, 36, 44, 81, และเลข 364 เป็นจำนวนมาก จนของตนไม่มีเลขท้ายดังกล่าวจำหน่าย ซึ่งจากการสอบถามคนที่มาซื้อบอกว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นเลขที่เกี่ยวข้องกับ ปอ ทฤษฎี ทุกเลข ทั้งหมดตามที่เป็นข่าวออกมาจนหมดเกลี้ยงไปแล้วหลายแผง
น้องมะลิ สุดน่ารักแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ต้องบอกว่าเป็นเด็กน่ารักร่าเริงสดใสมาแต่ไหนแต่ไรเลย เพราะแต่ละภาพนั้น น้องมะลิ ยิ้มและซุกซนตามประสาเด็กน้อยไร้เดียง
น่ารักแบบนี้ไม่รู้ว่าผู้จัดละครและแบรนด์สินค้าต่างๆ จะทาบทามให้หนูไปร่วมงานด้วยหรือเปล่าน๊า ต้องติดตามดูกันต่อไปค่ะ
เครดิตภาพจาก IG: por_bo_mali
ที่มาข่าว http://news.sanook.com/1938478/
แห่ซื้อลอตเตอรี่ เลขเด็ดหมดแผง! 'ปอ-ทฤษฎี' ให้โชค งวด 1 กุมภาพันธ์ุ 2559
คอหวยชาว จ.บุรีรัมย์ กวาดซื้อลอตเตอรี่เลขเด็ด “ปอ-ทฤษฎี” ทั้งเลขวัน เดือน ปีเกิด เลขอายุ เลขทะเบียนรถที่ขนศพ รวมทั้งตัวเลขที่บ้าน จนเกลี้ยงแผงขาย ส่วนคนซื้อไม่ทันเลือกเลขใกล้เคียงแทน หวัง “ปอ-ทฤษฎี” ให้โชคคนบุรีรัมย์
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายลอตเตอรี่ตามแผง และที่เดินเร่ขายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าได้มีประชาชนออกมาเสี่ยงโชค หาซื้อลอตเตอรี่ ที่มีตัวเลขเกี่ยวกับ “ปอ-ทฤษฎี” สหวงษ์ พระเอกละครช่อง 3 ที่เสียชีวิต กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเลข 23 ซึ่งเป็น พ.ศ.เกิดของปอ, เลขอายุ 36, เลขป้ายทะเบียนรถที่ขนส่งศพกลับบุรีรัมย์ คือ ชค 4481 กรุงเทพฯ, เลขของบ้านเลขที่ 364/9
ประชาชนแห่ซื้อลอตเตอรี่ ที่มีตัวเลขเกี่ยวข้องกับปอ ทั้งตัวเลขตรงๆ และตัวเลขกลับกัน ถูกกว้านซื้อจนหมดแผง ทำให้บางรายต้องเลือกซื้อที่มีเลขใกล้เคียงแทน สำหรับบริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ หน้าธนาคารกรุงไทย สาขารมย์บุรี, หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนพรเทพ ภายในห้างบิ๊กซี และที่มีพ่อค้าแม่ค้าเดินเร่ขายตามสถานที่ต่างๆ โดยราคาลอตเตอรี่นั้นยังคงขายอยู่ที่คู่ละ 80 บาทเป็นไปตามราคาควบคุม
"แห่ซื้อกันทั้งตัวเลขตรงๆ และตัวเลขกลับจนหมดเกลี้ยง ทำให้ลูกค้าที่มาซื้อในช่วงบ่ายต้องหาซื้อตัวเลขที่ใกล้เคียงแทน ราคาของลอตเตอรี่ นั้นยังคงอยู่ที่คู่ละ 80 บาท ไม่ได้เพิ่มราคาเอาเปรียบลูกค้า" นางบุญร่วม กล่าว
ด้านแม่ค้าลอตเตอรี่รายหนึ่งที่ขายอยู่ ในห้างบิ๊กซีบุรีรัมย์ บอกว่า ตั้งแต่เมื่อวานมีผู้สนใจหาซื้อเลข 23, 36, 44, 81, และเลข 364 เป็นจำนวนมาก จนของตนไม่มีเลขท้ายดังกล่าวจำหน่าย ซึ่งจากการสอบถามคนที่มาซื้อบอกว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นเลขที่เกี่ยวข้องกับ ปอ ทฤษฎี ทุกเลข ทั้งหมดตามที่เป็นข่าวออกมาจนหมดเกลี้ยงไปแล้วหลายแผง
ที่มาข่าว http://www.thairath.co.th/content/565613
ตะลึง! ผอ. กราบขอโทษนักเรียน ถูกโวยยืนพูดนานหน้าแถว
ถูกโวยยืนพูดนานหน้าแถว คุกเข่ายกมือไหว้ยอมรับผิด เผยเต็มใจถ้าให้ลูกศิษย์ได้ดี
สังคมยุค “ไม้เรียว” หมดค่า ไม่มีราคา ไม่มีความหมาย นักเรียน ม.6 โรงเรียนเทพศิรินทร์ เหิมหนัก สั่งให้ ผอ.กราบต่อหน้านักเรียนที่กำลังเคารพธงชาติ หลังไม่พอใจ ผอ.พูดหน้าแถวนานเกินไปเสร็จแล้วโพสต์เฟซบุ๊กประจาน ด้าน ผอ.เผย ไม่ถือหากทำให้นักเรียนเป็นคนดีได้ก็ยอมทำทุกอย่าง
โลกยุค “ไม้เรียว” ไร้ค่า นักเรียนใหญ่กว่าครู รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 22 ม.ค. ขณะที่กลุ่มนักเรียนชั้น ม.5-ม.6 จำนวนเกือบ 1,000 คนของโรงเรียนเทพศิรินทร์ เข้าแถวเคารพธงชาติที่บริเวณสนามบาสเกตบอล หลังเคารพธงชาติ นายอนันต์ ทรัพย์วารี ผอ.โรงเรียน ได้ออกมายืนพูดหน้าแถว ถึงประเด็นร้อนในโลกโซเชียล โดยขอใช้เวลา 20 นาที เกี่ยวกับคำสั่งตัดต้นอโศก ที่ปลูกอยู่หน้าตึกแม้นศึกษาสถาน มีการพาดพิงว่า จะปลูกแทนต้นไม้ประจำโรงเรียนทั้งที่ความจริง นายอนันต์แจงทำความเข้าใจว่า จะนำต้นรำเพยไปปลูกแทน แต่โลกโซเชียลไปปล่อยข่าวให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
นายอนันต์ยังแจงต่อถึงโครงการบูรณาการของนักเรียน ที่เพิ่งผ่านพ้นไปโดนโจมตีจากเพจเฟซบุ๊ก “นักเกรียน เทพศิรินทร์” ว่าล้มเหลว และอีกหลายประเด็นที่ค้างคาใจในสังคมออนไลน์ ระหว่างนั้น มีเด็กนักเรียนชั้น ม.6 คนหนึ่ง ยกมือกลางกลุ่มนักเรียน ตะโกนบอกว่า “ผอ.พูดเกินไป 5 นาทีแล้ว” เล่นเอานายอนันต์ถึงกับเงียบเสียงลงทันที จากนั้นได้เรียกเด็กเรียนคนนั้นมาหน้าแถว เพื่อนั่งคุยกัน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อนายอนันต์ยอมยกมือไหว้ลูกศิษย์ บอกขอโทษที่พูดเกินเวลา แต่เด็กคนดังกล่าว นั่งไม่สนใจ นายอนันต์เลยคุกเข่าก้มลงกราบขอโทษอีกครั้ง และให้เด็กนักเรียนกลับเข้าแถว
จากนั้นไม่นานก็มีภาพนายอนันต์ ยกมือไหว้ลูกศิษย์ถูกเฟซบุ๊ก นักเกรียนเทพศิรินทร์นำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ระบุเป็นภาพแห่งปีที่สุดของจิตวิทยา มีข้อความโพสต์ระบุด้วยว่า ถ้าจะดีอยากให้ ผอ.อ่านเพจนักเกรียนเอง อย่าไปฟังเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง เล่าต่อมาเลยครับ จะได้รู้ว่าเราไม่ได้โจมตี ผอ.เรื่องต้นไม้ แค่ “ตั้งคำถาม” และก็ได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อย ไม่ต้องดราม่าก็ได้ครับ กินเวลาเรียนพี่ ม.6 เค้า
ส่วนเรื่องผู้ปกครองมาโครงงานบูรณาการ สื่อสารไปแล้วว่า “ไม่ได้ห้าม” มาได้ ไม่ได้หนักหัวใครด้วยครับ แต่ไม่ใช่มาเพื่อทำโครงงานให้ลูก ย้ำไว้ชัดเจน ซึ่ง ผอ.ก็น่าจะรู้นะครับว่า ผู้ปกครองมาทำงานให้ ไม่น่าที่จะไม่รู้
ผอ.เป็นคนเก่งแน่นอนอยู่แล้ว ตัดปัญหานี้ออกไปด้วยการให้ ม.1 ยังไม่ต้องทำงานนี้จะดีกว่า ให้เป็นเวลาศึกษาดูงาน พี่ๆอีก 4 ระดับไปก่อน ค่อยเริ่มทำกันตอน ม.2 มิเช่นนั้น ก็จะเกิดปัญหาแบบนี้ ทุกปี แต่ลืมไป ผอ.ไม่ค่อยฟังความเห็นใครอยู่แล้วนี่ เสนอไปก็เท่านั้นแหละครับ สวัสดีครับ”
ต่อมาผู้สื่อข่าว สอบถามเหตุการณ์จากนายอนันต์ ทรัพย์วารี ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์ ได้รับการชี้แจงว่าเป็นความจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ม.ค. ที่สนามบาสเกตบอลระหว่างที่กำลังอบรมนักเรียน พร้อมชี้แจงถึงการทำสนามและการตัดต้นไม้ นักเรียนคนดังกล่าวก็พูดขึ้นมาว่าเกินเวลาไป 5 นาทีแล้ว ตนจึงเรียกมาหน้าแถวและพูดตักเตือน เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่รู้กาลเทศะ พร้อมบอกว่าผิดก็ต้องขอโทษ นักเรียนคนดังกล่าวก็บอกว่าตนทำผิดก็ต้องขอโทษ เพราะพูดเกินเวลามา 5 นาที ตนเห็นว่าตนผิดจริงเพราะขอเวลาไว้ 20 นาทีแต่พูดเกินไป 5 นาที จึงยกมือไหว้ขอโทษ แต่นักเรียนคนดังกล่าวยังไม่ยอมรับ โดยบอกให้ตนกราบ ตนจึงคุกเข่าลงกราบ เพราะต้องการสอนให้เด็กสำนึก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การคุกเข่าลงกราบเด็ก ไม่กลัวถูกสังคมมองถึงความเหมาะสมหรือไม่ ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์ กล่าวว่า บรรจุเป็นครูน้อยมากว่า 20 ปี เคยเป็นฝ่ายปกครองของโรงเรียนเทพศิรินทร์ มาก่อน และย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่นก่อนกลับมาเป็น ผอ. มองว่าคนเป็นครู ทำได้ทุกอย่าง หากสิ่งนั้นจะทำให้เด็กเป็นคนดี ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือเสียหายอะไร อยากถามว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน แม้เป็นครูจะศักดิ์สูงกว่านักเรียนแต่ไม่ใช่จะไหว้หรือขอโทษใครไม่ได้ จิตใจต้องสูงกว่า ตนต้องการสอนเด็ก ทำให้เด็กเป็นคนดี เรื่องนี้แล้วแต่สังคมจะตีความ ในมุมมองของตนหากสิ่งไหนทำให้เด็กเป็นคนดี ได้มากกว่าการไหว้หรือกราบตนก็ยอม ทำบ้านเมืองเราที่วุ่นวายกันอยู่ในขณะนี้เพราะมีแต่คนแข็งกับแข็งไม่มีใครยอมใคร
ที่มาข่าว http://www.thairath.co.th/content/566803
ฮือฮาน้อง ‘ลูกเทพ’ ดูดน้ำแดงโชว์
ยิ่งมายิ่งมาก วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี กลายเป็นจุดหมายของผู้เลี้ยง ‘ตุ๊กตาลูกเทพ’ ยาย 79 อุ้ม ‘น้องอัญชลี’ มาให้พระปลุกเสก บอกเหงาเลยเลี้ยงแทนลูก ขณะที่แม่ค้าลูกชิ้นปิ้งเลี้ยงไว้ 2 องค์ สุดเฮี้ยนดูดน้ำแดงโชว์ให้เห็น...
ที่วัดบัวขวัญ พระอารามหลวง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 59 หลังจากวันที่ผ่านมากระแส ‘ตุ๊กตาลูกเทพ’ ทำให้มีคนอุ้มลูกเทพ มาให้พระอาจารย์วินัย ฐิตปัญโญ อายุ 64 พรรษา ทำพิธีจารอักขระลงบนตัวตุ๊กตาและอธิษฐานจิตเพื่อความเข้มขลังตามความเชื่อ ตลอดทั้งวัน ทั้งลูกเทพผู้หญิง ผู้ชาย
ที่มาข่าว http://www.thairath.co.th/content/568482
อัพเดทอาการ ปอ ทฤษฎี จากโรงพยาบาล วันที่ 18 ม.ค.
อัพเดทอาการป่วยพระเอก ปอ ทฤษฎี หลังเข้าพักรักษาอาการป่วยจากโรงพยาบาลรามาธิบดี วันที่ 18 มกราคม 2559
10.45 น. บรรยากาศโดยรวมบริเวณชั้น 9 หน้าห้อง CCU โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ซึ่งพระเอกหนุ่ม "ปอ ทฤษฎี สหวงษ์" เข้ารับการรักษาตัว ตลอดช่วงเช้าวันนี้ทางคณะแพทย์ได้นำแผ่นพลาสติกมาปิดกั้นบริเวณทางเดินเพื่อทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยใหม่เข้ามายังห้องปลอดเชื้อ
ขณะเดียวกันแฟนคลับและประชาชนที่ติดตามข่าวอาการป่วยของพระเอกหนุ่มก็ยังคงเดินทางมาลงชื่อเยี่ยมไข้และขึ้นมาให้กำลังใจครอบครัวสหวงษ์กันอย่างต่อเนื่อง
12.42 น. อาน้ำอ้อย ออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า สำหรับการกั้นแผ่นพลาสติกบริเวณหน้าห้อง CCU เช้านี้ เกี่ยวข้องกับเคสของ "ปอ ทฤษฎี" ซึ่งรายละเอียดอื่นๆ เจ้าตัวยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด
13.15 น. ขณะบริเวณชั้น 9 โรงพยาบาลรามาธิบดีค่อนข้างมีความวุ่นวาย ซึ่งคาดอาจจะเป็นเพราะมีข่าวลือในโลกโซเชียลมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าพระเอกหนุ่ม "ปอ ทฤษฎี" เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากทีมแพทย์
13.20 น. น้องมะลิ ออกมาทักทายพี่ๆ สื่อมวลชนด้วยสีหน้าสดใสเหมือนเช่นทุกวัน
ที่มาข่าว http://news.sanook.com/1933298
รปภ.หนุ่มจับงูจงอาง 4 ม. มือเปล่า บอกฝึกมาตั้งแต่เด็ก
(15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เป็นที่ฮือฮาเมื่อมีการแชร์ภาพหนุ่มคนหนึ่งจับ งูบองหลา หรือ งูจงอาง ขนาดใหญ่ยาว 4 เมตร น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม ด้วยมือเปล่าโดยในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพคลิปเหตุการณ์ที่ลงในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ "หมีใหญ่ ใจลั่นล้า" หรือ นายวาสนา ย่าแหม อายุ 30 ปี พนักงานดับเพลิง อบต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ที่บันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ขณะมีชายหนุ่มคนหนึ่งจับงูบองหลา ยาวกว่า 4 เมตร ซึ่งหลังมีการโพสต์ก็มีการแชร์ต่อกันต่อมาผู้สื่อข่าวสืบหาจนทราบว่าชายผู้ที่จับงูที่อยู่ในคลิปคือ นายวุฒิพงศ์ สังข์ดุก อายุ 32 ปี ทำงานอยู่ที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ทำงานเป็น รปภ.โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเหตุเกิดที่บ้านของนางบุญหา คงแก้ว อ.เกาะลันตา เปิดเป็นร้านขายน้ำมันและรับซื้อยางพารา จึงประสานขอความช่วยเหลือมายังตน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ นายวุฒิพงศ์ ได้รับการเปิดเผยว่า คนที่จับงูที่ปรากฎภาพในคลิปคือตนจริงๆ และไม่ได้เป็นอาสากู้ภัยแต่อย่างใด ส่วนที่มีความสามารถจับงูได้นั้น ตนได้เรียนรู้การจับงูมาจากพ่อตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ตอนอยู่ที่พัทลุงซึ่งพ่อของตนมีอาชีพจับงูเห่าขาย ทุกครั้งที่พ่อออกจับงูตนจะติดตามไปด้วย เมื่อโตขึ้นตนก็ใช้ความรู้ในการจับงูที่ถูกถ่ายทอดมาจากพ่อมาช่วยเหลือชาวบ้าน
ส่วนใหญ่งูที่จับบ่อยจะเป็นงูเห่า ส่วนงูจงอางที่ใหญ่ขนาดนี้เพิ่งจับครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งตนช่วยชาวบ้านจับงูมาแล้วเป็นเวลานับ 10 ปี โดยเริ่มจับจริงครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 13-14 ปี รวมๆ แล้วปีนึงจับงูแล้วนับร้อยตัว งูที่จับได้ตนจะนำไปปล่อยสู่ธรรมชาติที่ห่างไกลชุมชน
อย่างไรก็ตาม งูจงอางตัวดังกล่าวน่าจะเลื้อยหลบอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาพักอยู่ในห้องเก็บของที่มีอากาศชื้น ขณะที่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต่างก็ให้ความสนใจกับงูจงอาง บ้างก็เชื่อว่าเป็นงูเทวดาที่เลื้อยเข้าบ้านเพื่อให้โชคลาภ ต่างพากันวิเคราะห์เป็นตัวเลขตามความเชื่อ
ที่มา http://news.sanook.com/1931774/
บอกญาติซื้อหวย '145' ก่อนมรณภาพ! พระวัดโคราชสิ้นลมกลางดึก
พระวัดโนนระเวียง อายุ 51 ปี มรณภาพกลางดึกคากุฏิ พบมีเลือดทะลักออกจมูก ญาติคาดโรคเครียด-กรดไหลย้อนกำเริบ ไม่คิดว่าจะสิ้นลมกะทันหัน พร้อมเผย ช่วงบ่ายยังโทรให้ซื้อเลขท้าย "145" บอก เผื่อมีโชคเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 59 ร.ต.อ.ดำรง ปุราชะโก พงส.สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่า พระบุญชู สนฺตจิตฺโต อายุ 51 ปี พระลูกวัด วัดโนนระเวียง ม.8 ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด มรณภาพภายในกุฏิ จึงเดินทางไปชันสูตรพลิกศพ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ด่านขุนทด และหน่วยกู้ภัยปริสุทฺโธ (ฮุก 31) ภายในกุฏิชั้น 2 พบ พระบุญชู สภาพนอนมีผ้าห่มคลุมถึงอก เลือดทะลักทางจมูก ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง ในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ตรวจดูทรัพย์สินยังอยู่ครบ มีทั้งเงินสด 17,000 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง พระเครื่องและเครื่องรางอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบยาบำรุงเลือดของ รพ.มหาราชนครราชสีมา จึงนำส่ง รพ.ด่านขุนทด เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการมรณภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่ามรณภาพไม่ต่ำกว่า 5 ชม.
จากการสอบสวนเบื้องต้น พระครูสุนทรกิจวิมล เจ้าอาวาส ให้การว่า พระบุญชู บวชมาแล้ว 16 พรรษา เดิมจำวัดยู่ที่วัดสีมุมบูรพาราม อ.เมืองนครราชสีมา และญาติเพิ่งจะพามาฝากให้จำพรรษาที่วัดโนนระเวียง ได้เพียง 2 เดือน ปกติ พระบุญชู จะเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับพระในวัด แต่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ หลังสรงน้ำก็เข้าห้องจำวัด จนกระทั่งเช้าพระในวัดกลับจากบิณฑบาตจะมาเรียกฉันเช้า พบว่ามรณภาพแล้ว
ขณะที่ ร.ต.อ.ดำรง เปิดเผยว่า ญาติมาติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิด โดยบอกว่า พระบุญชู มีโรคประจำตัวคือเป็นโรคเครียด และกรดไหลย้อน สงสัยว่าคงเกิดอาการกำเริบ ทำให้ถึงแก่มรณภาพ โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับญาติเป็นปกติ และยังบอกให้ซื้อเลขท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาล 145 ไว้ด้วย เผื่อว่าจะมีโชค ไม่คิดว่าจะมรณภาพกะทันหันเช่นนี้.
ตร.รู้ตัวแล้ว! โชเฟอร์รถตู้คลิปดังต่อยคู่กรณีกลางถนน วอนผู้เสียหายเข้าพบ
จากกรณีโลกสังคมออนไลน์ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในหัวข้อ “รถตู้เลือดร้อน! ..ลงมาต่อยคู่กรณี + ปิดประตูอัดขา!” ความยาวประมาณ 23 วินาที ขณะที่เนื้อหาในคลิปเป็นภาพเหตุการณ์ชายสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ เชื่อว่า เป็นคนขับรถตู้ กำลังโต้เถียง ชี้หน้าด่า ก่อนปล่อยหมัดเข้าใส่ชายผู้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน ทีด้า สีเทา ซึ่งในช่วงท้ายคลิปชายสวมเสื้อยืดสีเหลือง ยังปิดประตูเข้ากระแทกขาของชายคนขับรถยนต์เก๋งอย่างแรง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี (สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์) อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ถึงกรณีคลิปที่ถูกเผยแพร่ดังกล่าว ซึ่งหลังทราบข่าวได้ส่งเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่าเหตุเกิดเวลาประมาณ 07.00 น. บริเวณตรงข้ามห้างพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน จนทราบข้อมูลและมีเหตุเกิดขึ้นจริง แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ คือ ผู้ที่ขับรถยนต์เก๋ง นิสสัน ทีด้า สีเทา ที่ถูกทำร้ายเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงติดตามผู้ขับรถยนต์ตู้มาได้ก็ดำเนินการได้แค่ความผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก แต่ความผิดด้านทำร้ายร่างกายที่เป็นคดีอาญาต้องมีคู่กรณี จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้เข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน จากการตรวจสอบเป็นรถยนต์ตู้สาธารณะที่วิ่งในถนนงามวงศ์วานประจำ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า จากการสอบถามนายกบ (นามสมมติ) อายุ 41 ปี คนขับรถ จยย. รับจ้าง ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะเกิดเหตุตนขับรถ จยย. อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นชายขับรถยนต์ตู้กำลังทำร้ายชายขับรถยนต์เก๋ง ตนจึงได้ขับรถไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมจราจรแยกพงษ์เพชร แต่ทั้งคู่ก็ขับรถออกจากที่เกิดเหตุไปแล้ว
เบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวชายขับรถยนต์ตู้ดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุนั้น คาดว่า เกิดจากการขับรถเบียดกันและปาดหน้ากัน และอยู่ในขั้นตอนการรอผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000004385
ฮือฮา เปรี้ยว นางเอก7สี เก็บขยะเลี้ยงชีพ
วันก่อนเห็นสาวสวยหน้าตาคล้ายนางเอก 7 สี เปรี้ยว–ทัศนียา เดินค้นถังขยะเก็บขวดพลาสติกอยู่แถวห้างบิ๊กคิง บางใหญ่ ดูมาดูไปใช่เลย เพราะเห็น กล้องกำลังถ่าย ที่ไหนได้เป็นละครเรื่อง “มรสุมสวาท” ยังมี เวียร์–ศุกลวัฒน์ เข้าฉากด้วย เป็นตอนที่ สยมภู (เวียร์) เดินสะกดรอยตามดู กวาง (เปรี้ยว) พอเห็นแล้วก็สงสารจึงตั้งใจว่าจะให้ความช่วยเหลือ...
ฮือฮา 4 ราศีมีหนาว! 16 ม.ค. ราหูย้ายใหญ่ หมอช้างเตือนภัย แนะวิธีไหว้ตั้งรับอสูรเงาทะมึน
คำถามในทางโหราศาสตร์ใครจะได้รับผลกระทบกับการยกย้ายใหญ่ในปี 2559 ครั้งนี้บ้าง แล้วมีวิธีป้องกันกันอย่างไรที่จะเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสไหม แต่ละราศีต้องทำอย่างไร ด้านล่างมีคำตอบ
เรื่องนี้ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดังเมืองไทย เจ้าของฉายาหมอดูจอมเก็บสถิติ ผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลออกมาเปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่าหลังจาก 'ดาวราหู' หรือ 'พระราหู' ยกย้ายวันที่ 16 มกราคม 2559 นี้ หลังจากนั้น 4 ราศีที่ได้รับผลกระทบหลังจากนี้ทันที
นอกจากไหว้รับ-ส่ง 'พระราหู'ปีนี้แนะนำไม่เฉพาะผู้ที่เกิดใน 4 ราศี (และลัคนาราศีเกิด) หรือ 2 ราศีที่ดาวราหูออกจากดวง และ 2 ราศีที่ราหูกำลังจะเข้าดวงแล้ว อยากให้ทุกราศีทำบุญถวายหนังสือ และไปสักการะ 'พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู' (พระพุทธรูปปางปราบราหู) เพื่อให้ชีวิตผ่านเคราะห์ร้ายและเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสให้ดวงดีตลอดระยะ 1 ปีครึ่งที่ดาวราหูจะโคจรมาอยู่ตำแหน่งนี้ด้วย
"การย้ายของ 'ดาวราหู' ในวันที่ 16 มกราคม 2559 นี้จะโคจรคู่กับ 'ดาวพฤหัส' หรือดาวแห่งศีลธรรม ดาวครู ดาวแห่งการศึกษาไปอยู่ตรงนั้นครึ่งปี ซึ่งพระราหูยกย้ายครั้งนี้มีความเป็นพิเศษมากๆ เพราะนอกจากพระราหูเปลี่ยนราศีในวันที่ดีด้วยแล้ว (วันที่ 16 มกราคม 2559 ตรงกับ 'วันครู') ดังนั้นนอกจากการไหว้รับพระราหู แนะนำว่าครั้งนี้ควรเน้นการทำบุญด้วยการถวายหนังสือและการไปสักการะ 'พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู' (พระพุทธรูปปางปราบราหู) เพื่อที่จะได้เสริมทั้งดวง ทั้งสติปัญา เสริมสร้างแสงสว่างให้ชีวิตตัวเองมีความเจริญก้าวหน้าก้าวไกลอีกด้วย"
2 ราศี 'ไหว้ส่ง' ดาวราหูออกจากดวง
หมอช้างย้ำว่า สำหรับ 2 ราศี (และลัคนาราศีเกิด) ราศีที่ดาวราหูออกจากดวงต้องไหว้ส่ง ได้แก่ 'ราศีมีน' และ 'ราศีกันย์' จะได้รับผล
กระทบเพราะการถีบตัวของดาวราหูออกจากดวง ดังนั้นควรทำพิธีไหว้พระราหูและทำบุญด้วยหนังสือ และการไปสักการะ 'พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู' (พระพุทธรูปปางปราบราหู) เพื่อผ่อนความแรงของดาวจากหนักเป็นเบา
กระทบเพราะการถีบตัวของดาวราหูออกจากดวง ดังนั้นควรทำพิธีไหว้พระราหูและทำบุญด้วยหนังสือ และการไปสักการะ 'พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู' (พระพุทธรูปปางปราบราหู) เพื่อผ่อนความแรงของดาวจากหนักเป็นเบา
ทั้งนี้ หมอช้างย้ำด้วยว่า ในวันที่ 16 มกราคม 2559 นี้นอกจากไหว้รับและรับพระราหูแล้ว ยังอยากให้ทำบุญเกี่ยวกับการมอบหนังสือเนื่อง จากวันที่พระราหูย้ายตรงกับวันดี ซึ่งการทำบุญที่สร้างปัญญาให้กับคน ให้ทุนการศึกษา บริจาคหนังสือเรียน หนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมะหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการศึกษา ให้ปัญญากับคนเป็นการให้แสงสว่าง มอบเป็นจำนวนเลขพระราหู 8 เล่ม หรือ 12 เล่ม นำไปบริจาคในวันที่ 16 มกราคมนี้พร้อมกับ ไปสักการะ 'พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู' (พระพุทธรูปปางปราบราหู) เพื่อเป็นการสร้างพลังที่ดีอีกด้วย
"ครั้งนี้เป็นครั้งที่อยู่ในช่วงจังหวะที่ดีส่งผลบวกกับตัวเราเพียงแต่ว่าสิ่งสำคัญการโคจรของดวงดาวก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อการเปลี่ยน แปลงชะตาชีวิต แต่ความเพียรความขยันตั้งใจก็เป็นส่วนสำคัญ และอย่าลืมว่าพระราหูเป็นดวงดาวแห่งเงา การสร้างแสงสว่าง สร้างปัญญาให้กับตนเองและคนรอบข้างในสังคม เป็นสิ่งที่ทำให้เงาอันนี้ส่งผลเกิดความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต" หมอดูชื่อดังกล่าวในที่สุด
ขั้นตอนในการไหว้ด้วยตัวเองทำตามลำดับ โดยมีดังต่อไปนี้
หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจุดธูปเทียนแล้วเริ่มด้วยบทสวดพระราหู
(ตั้งนะโม 3 จบ)
บทสวดบูชาพระราหู
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ
พระคาถาสุริยะบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ
พระคาถาจันทบัพพา
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
เสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ
กล่าวคำถวายเครื่องสังเวย คำถวายเครื่องสังเวยพระราหู
นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ
จะปุปผัง สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ
สัมปันนัง โภชะ นานัง
สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง
อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา
หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา
มะหิทธิกา เตปิ อัมเห
อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ
เยนะ สุเขมะจะฯ
คาถาบูชาพระราหู (สวด 8-12 จบ) / คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ
ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12 อย่าง) ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใดๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้า (อธิษฐานเรื่องอื่นๆ ที่ปรารถนา)
เมื่อธูปใกล้หมดควรลาของไหว้แล้วนำมารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล และก่อนทานของไหว้ควรท่องคาถา “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ” ก่อนที่จะทานของไหว้แต่ละอย่าง
โหวตข่าวนี้
ชอบ
ไม่ชอบ
สนุก
ประหลาดใจ
เสียใจ
ให้กำลังใจ
แชร์ว่อน สาว 18 ขับเก๋งไล่ชนไปทั่วแล้วหนี
(12 ม.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอจากเฟซบุ๊กคุณ Peeraphol Ardthong ซึ่งเป็นเหตุการณ์ตามจับรถยนต์สีขาวคันหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่าชนแล้วหนี
โดยผู้ถ่ายคลิปได้ขับรถจยย.ตามรถยนต์คันดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า จะล่าให้สุดป้าย พร้อมบรรยายว่ารถคันนี้ชนแล้วหนี ตั้งแต่แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปถึงลาดปลาเค้าและชนรถคันอื่นมาแล้วประมาณ 3-4 คัน จนในที่สุดรถคันนี้ก็จอด และคนที่เป็นคนขับรถซึ่งเป็นผู้หญิงนั้นยังไม่ยอมลงมา ขณะที่คนขี่รถจยย.และคนอื่นๆ พยายามเรียกให้ลงมา
ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยพื้นที่เกิดเหตุเป็นของ สน.โชคชัย ซึ่งออกมาระบุว่าผู้ขับรถคันดังกล่าว เป็นเด็กสาวอายุ 18 ปีเป็นชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งผู้ที่ถูกชนได้เริ่มออกมาระบุรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว
ชาวเน็ตอึ้ง! แม่ค้าสาวโพสต์คลิปเรียกลูกค้า แก้ผ้าถูสบู่โชว์
(11 ม.ค.) เรียกว่าอึ้งกันไปทั้งโลกออนไลน์ สำหรับคลิปแม่ค้าสาวขายสบู่แบบจัดหนัก แก้ผ้าล่อนจ้อนถูสบู่โชว์กันแบบจะๆ จนถูกแชร์ไปแล้วกว่า 5,000 ครั้ง
โดยในคลิปดังกล่าวปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่ง ไม่สวมใส่เสื้อผ้า นั่งยองๆอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำภายในห้องน้ำ ใช้สบู่ก้อนฟอกถูไปตามร่างกายและใบหน้าพร้อมบรรยายสรรพคุณ และแจ้งการเปิดรับตัวแทนขายแบบไม่มีเหนียมอาย ใช้เพียงมือข้างหนึ่งปิดหน้าอกเอาไว้กันอนาจารเท่านั้น โดยหญิงสาวในคลิปพูดทิ้งท้ายว่า "เรตอาร์นิดนึงนะคะ เรียกลูกค้าค่ะ"
อย่างไรก็ตาม คลิปดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เหมาะสม โดยชาวเน็ตตั้งคำถามว่า แค่ขายสบู่ต้องทำขนาดนี้เลยหรือ?
**คลิปแม่ค้าสาวขายสบู่แบบจัดหนัก แก้ผ้าล่อนจ้อนถูสบู่โชว์กันแบบจะๆ**
http://newhomeonline.blogspot.com/2016/01/blog-post_92.html
ดีเจเก่งแถลงข่าวหลังโซเซียวรุมด่าด่วนก่อนโดนลบ
เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีแคปภาพโพสต์ข้อความบนหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของน.ส.สุมาลี ไปลงในเพจดังกล่าว ทำให้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและต่อว่าน.ส.สุมาลี ส่งผลให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ระหว่างนั้นพบว่าคนขับได้ชูนิ้วกลางให้กับรถกระบะ ก่อนที่ทั้งคู่จะมาติดไฟแดง คนขับรถยนต์เดินลงมาเคาะกระจกของรถกระบะ ระหว่างนั้นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนรถกระบะขับเดินหน้าไป ต่อมาจึงเปลี่ยนใจถอยหลังกลับมาชนรถยนต์ ขณะที่น้องสาวโพสต์ลงเฟซบุ๊กนั้น ยังไม่ได้เห็นคลิปภาพวิดีโอเหตุการณ์ เพียงแค่เล่าไปตามเหตุการณ์ที่พบเห็นเท่านั้น
หลังจากนั้นก็มีผู้ไม่หวังดีแคปภาพข้อความของน้องสาวไปลงเพจ youlike(คลิปเด็ด) โดยมีการเซ็นเซอร์ใบหน้าและชื่อเพียงบางส่วนเท่านั้น และยังมีการติดแฮชแท็กว่า "ทีมกระบะดำดีเจเก่ง" จนเป็นเหตุให้มีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นโดยใช้คำหยาบคายเป็นจำนวนมาก
ฟันธง..! เผยราศีใดช่วงนี้ "เงินดี..งานเด่น" ชีวิตรักแฮปปี้ สุขสมหวัง!
หมอลักษณ์ เรขานิเทศน์ฟันธงผ่านรายการ ศึก 12 ราศี โดยราศีธนู ( 16 ธันวาคม-15 มกราคม) ในช่วงนี้มีเกณฑ์ เงินเด่น งานดี ชีวิตรักแฮปปี้สุดๆ
คนที่เกิดในราศีธนู ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้ว ถึง 9 กุมภาพันธ์ อยู่ในเดือนความสุข ความสำเร็จ หลังวันที่ 9 กุมภาพันธ์ - 6 สิงหาคม ดวงจะไม่ค่อยดี เป็นจังหวะที่แย่เหมือนกัน จะดีขึ้นอีกทีช่วงหลังวันที่ 7 สิงหาคม ช่วงนี้ งานดีก็ให้ ลุย รุกเต็มที่ เงินดี ให้ขยันมุ่งมั่น และต้องดูแลความรักให้ดี
ข้อมูลจาก รายการศึก 12 ราศี
ชื่นมื่นกันทั่ว!! งานแต่งนี้ไม่ธรรมดา เมื่อได้รู้ว่าเจ้าบ่าวคือใคร เพราะเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ!!
สยามอัพเดทนำเรื่องราวของคู่รัก สาวหล่อวัย 27 ปี ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอสาวสวยคนรักวัย 30 ปี แต่งงานถูกต้องตามประเพณีที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เผยต่างเป็นลูกคนสุดท้าย เจ้าบ่าวเป็นเจ้าของร้านอาหาร คบหาดูใจกัน 2 ปี จนมั่นใจจึงไปขอแต่ง ด้วยสินสอดเงิน 1 แสน ทอง 5 บาท...
09.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านจ้าวเรสเตอรอง ตั้งอยู่ในตลาดสิชล ม.1 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม หลังจากทราบว่า มีการตั้งขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวซึ่งเป็นสาวทอม แห่ไปยังบ้านเจ้าสาวที่บ้านต้นบก ม.5 ต.ทุ่งใส อ.สิชล มีรถยนต์ประมาณ 30 คัน ร่วมขบวนแห่ขันหมาก วิ่งตามกันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
ก่อนที่จะถึงบ้านเจ้าสาวประมาณ 500 เมตร แขกของฝ่ายเจ้าบ่าว ได้ตั้งขบวนขันหมากมีบรรดาสาวนางรำแต่งตัวย้อนยุค ตามด้วยขบวนกลองยาวที่บรรเลงเพลงให้รำวงกันอย่างสนุกสนาน และท้ายสุดของขบวนเป็นเจ้าบ่าวสาวทอมสุดหล่อ นั่งบนจักรยานสามล้อที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เมื่อขบวนเจ้าบ่าวถึงบ้านเจ้าสาวมีการต้อนรับเป็นอย่างดีจากฝ่ายญาติของเจ้า สาว ก่อนจะทำพิธีตามประเพณี โดยมีสินสอดเป็นเงินจำนวน 100,000บาท และทองคำหนัก 5 บาท สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานกว่า 300 คน
จากการสอบถามทราบว่าเจ้าบ่าวสุดหล่อ ชื่อนางสาววิภาดา ด่านศรีสุข อายุ 27 ปี เป็นเจ้าของร้านจ้าวเรสเตอรอง มีพี่น้อง 3 คน เจ้าบ่าวเป็นลูกคนสุดท้อง ส่วนเจ้าสาวแสนสวยชื่อนางสาวอุมาพร นาคแก้ว อายุ 30 ปี มีอาชีพขายผักในตลาดสิชล มีพี่น้อง 3 คน และเจ้าสาวเป็นคนสุดท้องเช่นกัน ทั้ง 2 ได้คบหาดูใจกันมากว่า 2 ปี จนมั่นใจว่าจะสามารถอยู่กินเป็นคู่ชีวิตกันได้ จึงตกลงที่จะจัดพิธีแต่งงานอย่างถูกตามประเพณี
ลุยกับเจ๊บุ๋ม!! ตัวประกอบดังกว่าซุปตาร์! แต่ถ้าได้รู้ค่าตัวแล้วถึงกับผงะ!!
"พี่คะ หนูอยากเป็นดาราค่ะ" คำนี้บุ๋มเจอะเจอเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงสามสี่ปีหลัง น้องบางคนแท็กรูปมาในไอจี ประหนึ่งว่าดิฉันเป็นเอ ศุภชัย หรืออุ๊บ วิริยะ หรือพจน์ อานนท์ ที่สามารถพาเด็กเข้าสู่วงการได้ ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า บุ๋มทำไม่ได้นะคะ ทุกวันนี้ยังขอละครเค้าเล่นอยู่เลย ยังเป็นแค่ลูกจ้างค่ะ ซึ่งถ้าพูดถึงอาชีพนักแสดงสมัยก่อน อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน หมายถึงอาชีพที่ไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับตัวได้ แล้วถ้าถามว่าปัจจุบันแตกต่างจากสมัยก่อนหรือไม่?
ด้วยประสบการณ์ที่แอบมองชีวิตดาราคนอื่นๆ และมองผ่านชีวิตตัวเองมากว่า 15 ปี!
ขอบอกตรงๆ เลยว่า "ไม่ต่างค่ะ!!!"
...มันคือความจริง!
นักแสดงเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงเลย มีเรื่องมีราวนิดเดียวก็หายไปได้ในบัดดล เสียโฉมพิการเสียชีวิตก็จบกัน
แต่ก็อย่างว่า ความเป็นดารา การเป็นคนมีชื่อเสียง มันดูหอมหวาน ไหนจะคนห้อมล้อม ไหนจะคนขอลายเซ็น ไหนจะการได้อยู่หน้าจอ ได้เป็นคนดัง ไหนจะรายได้ที่เข้ามา ดังนั้นพี่บุ๋มขา...ให้หนูเป็นนักแสดงตัวประกอบเดินผ่านฉากก็ได้ค่ะ! (อะ! ยังตื๊ออีก) นักแสดงตัวประกอบหรือที่เรียกว่า เอ็กซ์ตร้า (Extra) คือ นักแสดงที่มีความจำเป็นต่อละครอย่างมาก โดยเฉพาะฉากที่ต้องการความยิ่งใหญ่อลังการ ฉากที่ต้องการให้มีผู้คนเยอะๆ นักแสดงเหล่านี้ต้องไปยืนให้เต็มฉาก ถ้าเป็นยุคปัจจุบันน่ะไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นย้อนยุคก็ต้องแต่งตัวกันนาน แล้วยิ่งถ้าเป็นผี! โอ้โห! แต่งเอฟเฟกต์กันน้ำตาไหล ซึ่งถ้าแต่งย้อนยุคกับเอฟเฟกต์ กองถ่ายมักจะเตรียมให้ แต่ถ้าเป็นละครยุคปัจจุบันนักแสดงตัวประกอบต้องแต่ง หน้าทำผมและเตรียมเสื้อผ้าไปเอง
ส่วนค่าตัวที่ได้ขึ้นอยู่กับบทบาทที่ต้องแสดง จากหลักร้อยจนถึงหลักพันต่อหนึ่งคิว (1 คิวคือเวลาทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นโดยประมาณ ถ้าเกินเวลาก็จะคิดเป็นอีก 1 คิว แต่ก็มีบางกองถ่ายทำมึน เกินมา 2-3 ชั่วโมง ก็ไม่ยอมจ่ายเพิ่มให้) ถ้ามีบทมีชื่อตัวละคร ราคาจะอยู่ที่ 3,000 - 10,000 บาทต่อคิว ถ้ามาแล้วจากไปแต่มีบทพูด เช่น เป็นแม่ค้าข้างบ้านที่ด่ากับนางเอก, เป็นคุณหมอที่ออกมาบอกว่าคนไข้ปลอดภัยแล้ว, เป็นตำรวจที่เข้ามาในโกดังแล้วบอกว่า "นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนยกมือขึ้น", หรือเป็นกรรมการบริหารในที่ประชุมแล้วยกมือพูดว่า "ผมเห็นด้วยกับนโยบายนี้" ดาราตัวประกอบเหล่านี้ค่าตัวจะอยู่ประมาณ 1,000 - 5,000 บาท (เสื้อผ้าหน้าผมต้องเตรียมมาเอง บางทีมาถึงรอตั้งนานพอจะเข้าฉาก ผู้กำกับบอกไม่เหมาะดูโทรมไปก็อดเล่นต้องเดินกลับบ้านก็มี แต่นักแสดงเหล่านี้เราจะสามารถแอบเห็นได้ตามละครหลายเรื่อง ไปได้ทุกช่อง หนังโฆษณาอีกหลายต่อหลายเรื่อง
บทที่จะได้รับก็จะแนวเดิมๆ ใครเป็นหมอก็จะเป็นหมออยู่เรื่อยๆ ใครที่เป็นเสี่ยหื่นๆ ก็จะได้เป็นอยู่อย่างนั้น ใครมีหนวดมีเคราก็จะเป็นนักเลงหัวไม้คอยปล้ำนางเอกให้พระเอกมาช่วย จนนักแสดงเอ็กซ์ตร้าบางคนต้องคอยฟิตร่างกายเล่นกล้ามตลอดเพื่อจะได้รับบท ละครย้อนยุคถอดเสื้อถือดาบ
ส่วนตัวประกอบในฉากงานเลี้ยงปาร์ตี้นางเอกเดินแฟชั่นโชว์ ถ้าสวยก็ได้ขึ้นเวทีเดินสวนกับนางเอก เหมือนอย่าง ชมพู่ อารยา ที่เคยทำตอนเข้าวงการใหม่ๆ (แต่ความสวยและจังหวะชีวิตของชมพู่ทำให้ปัจจุบันเธอกลายเป็นนางเอกซุป'ตาร์ และนี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งประกายความฝันของคนหลายๆ คนที่คิดว่าการเป็นดาราเอ็กซ์ตร้าก็อาจจะกลายเป็นดาราซุป'ตาร์โด่งดังได้ เช่นกัน)
ส่วนดาราตัวประกอบคนไหนที่สูงอายุก็จะเป็นคุณหญิงคุณนายในงานเลี้ยงต้อง เอาชุดราตรีมาเอง แต่งหน้าทำผมตีโป่งเอง ถ้าบทที่ไม่มีการพูดอะไรแค่แสดงสีหน้าตอนนางเอกโดนขัดขาสะดุดล้มลงตอนเดิน แบบ กลุ่มนี้จะได้อยู่ที่ 1,000 บาท (ลุงคนนึงเล่นเป็นควาญช้างได้คิวละ 1,000 บาท บ้านอยู่แถวมีนบุรี จ่ายค่าแท็กซี่ไปกลับวันละ 400 เหลือ 600 กลับบ้าน)
มีละครเรื่องนึงที่บุ๋มแสดงแล้วต้องมีเด็กวัยรุ่น 2 คนมาเป็นนางต้นห้อง คอยเปิดประตูคอยรับคำสั่ง คอยเดินตามกางร่มให้ คอยจับแขน 2 ข้างของนางเอกไม่ให้ดิ้นเพื่อให้บุ๋มตบได้ถนัดมือ บุ๋มแอบถามราคาค่าตัวของน้องว่ามานอนกลิ้งเกลือกรอตั้งแต่เช้ากว่าจะได้ถ่าย บ่ายสอง น้องๆ ได้รับค่าตัววันละเท่าไร? น้องๆ บอกว่าวันละ 250 บาท หืม??? ใช่ค่ะ! ฟังมาไม่ผิด! แล้วบางทีก็ไปถ่ายที่ต่างจังหวัด หนีไปไหนก็ไม่ได้ แถมเมื่อรับเล่นแล้วก็ต้องมาทุกวันที่บุ๋มเข้าฉาก เปลี่ยนตัวไม่ได้! แต่บุ๋มก็งงว่าทำไมค่าตัวน้อยจัง? หรือได้ 300 แต่โดนนายหน้าหัก 50 บาท? สืบความไปมาเลยทราบเรื่องว่า แท้จริงแล้วนักแสดงเหล่านี้ควรได้ค่าตัวน้อยสุดอยู่ที่ 1,000 บาท แต่โดนหักหัวคิวหลายต่อหลายทอด จนไปเหลืออยู่ที่ตัวน้องเพียงแค่ 250 บาท แต่ถ้าน้องรับได้ก็ทำกันไปก็แค่นั้น (รับเงินสดก่อนกลับบ้าน)
ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ของนักแสดงตัวประกอบในกองถ่าย พวกเขาได้รับการดูแลอย่างอบอุ่นเป็นธรรมชาติ (ประชด)
เนื่องจากนักแสดงตัวประกอบเหล่านี้จะถูกเรียกมากองๆ กันไว้ตั้งแต่เช้า แต่งตัวเสร็จแล้วก็ต้องรอเข้าฉากอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์หรือในบ้านพักเหมือนอย่างดาราตัวใหญ่ อาหารการกินก็เป็นข้าวกล่องที่ทางคนดูแลนักแสดงตัวประกอบจัดหามา หรือไม่ก็เป็นข้าวกองถ่าย แต่ตักข้าวแล้วก็ต้องไปหาที่กินตามขอบต้นไม้ขอบปูนไม่ได้นั่งโต๊ะกินข้าว เหมือนดาราเค้า แต่ต่อให้ลำบากขนาดไหน บางคนก็ยอมที่จะเป็นดาราตัวประกอบตลอดชีวิต
บุ๋มเห็นตัวประกอบชายคนนึงตั้งแต่บุ๋มเริ่มเข้าวงการเมื่อ 15 ปีก่อน รับบทเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอเพลงลูกทุ่งทั่วไป รับบทเป็นตัวประกอบ เป็นนักข่าวเป็นเพื่อนพระเอกในละครหลายเรื่อง เวลา 15 ปีผ่านไป ละครเรื่องล่าสุดที่บุ๋มเล่นเค้าก็ยังเป็นนักข่าวอยู่อย่างนั้น
เลยคิดได้ว่าบางทีการทำงานเป็นดาราตัวประกอบแบบนี้ ก็ยังสบายกว่างานใช้แรงงาน แถมยังได้อยู่หน้ากล้องอย่างที่ฝัน ได้เจอดาราคนโปรด แล้วถ้าเป็นดาราใหญ่ใช่ว่าจะอยู่ได้นานเหมือนพวกดาราตัวประกอบ ดังมากก็ดับง่าย จึงเห็นสัจธรรมของชีวิตข้อนึงว่า
…ไม่ว่าตัวเราจะทำอะไร จะเป็นใคร ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ เพียงพอแล้ว! จริงไหม?? ...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ขับเคลื่อนโดย Blogger.